Last updated: 1 ส.ค. 2568 | 35 จำนวนผู้เข้าชม |
เรื่องราวจากแรงบันดาลใจสู่แรงบันดาลใจ “นทีป์ ฅนปากศิลป์”
สุทัช ดิษฐี หรือ นทีป์ ปัจจุบันอายุ 49 ปี อดีตสตันต์แมน (25 ปีที่แล้ว) ที่มีความสามารถในการแสดงฉากเสี่ยงอันตราย หรือฉากที่ต้องการความสามารถทางกายภาพสูงและเทคนิคเฉพาะทาง ซึ่งนักแสดงทั่วไปไม่สามารถทำได้ เพื่อความปลอดภัยและสมจริงของฉากนั้นๆ
เรื่องราวไม่คาดฝัน
นทีป์ โชคร้ายประสบอุบัติเหตุระหว่างฝึกตีลังกา ทำให้คอหักและกระดูกคอแตก จนกลายเป็นอัมพาตทั้งตัว ไม่สามารถขยับร่างกายได้ ในช่วงแรกที่ประสบเหตุ สุทัช รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง และกว่าจะทำใจและยอมรับได้ต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 ปี และปล่อยเวลาล่วงเลยไปถึง 10 ปี ในสภาพนอนติดเตียง ไม่ได้ทำอะไรเลย
จุดประกายความฝันใหม่
อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเขาได้เปิดทีวีและได้พบกับ เอกชัย วรรณแก้ว ศิลปินไร้แขน ผู้เป็นแรงบันดาลใจและจุดประกายความหวังให้เขาอีกครั้ง เอกชัย วรรณแก้ว เป็นผู้พิการที่สามารถใช้ทั้ง เท้า ปาก คอ แทนมือในการวาดภาพ ซึ่งทำให้เขารู้สึกทึ่งและมีกำลังใจที่จะกลับมาสู้ต่อในสนามชีวิตจริง
“ฅนปากศิลป์” ฉายาที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
นทีป์ เริ่มจากการพยายามเขียนหนังสือด้วยอวัยวะที่เหลืออยู่นั่นคือปาก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถขยับได้ เขาฝึกฝนอย่างหนักจนสามารถเขียนหนังสือได้สำเร็จ และรู้สึกดีใจมาก จากนั้นเขาก็ค่อยๆ พัฒนาฝีมือไปสู่การวาดลายไทย ลายกนก จนลายเส้นนิ่งขึ้น และมีคนแนะนำให้เขาลองวาดภาพพระประจำวันเกิด เพื่อจะได้มีรายได้จากการขายภาพ จากนั้น นทีป์ ก็วาดภาพพระประจำวันเกิดตามคำแนะนำ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพวาดของเขาขายได้จริง ภาพแรกที่ขายได้ 300 บาท ซึ่งทำให้ดีใจมาก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอาชีพใหม่ให้กับเขา ตั้งแต่นั้นมา นทีป์ ก็พัฒนาฝีมือการวาดภาพด้วยปากมาโดยตลอด จนได้รับฉายาว่า "นทีป์ ฅนปากศิลป์" จนมาถึงทุกวันนี้
ความภาคภูมิใจ
จุดสูงสุดในชีวิตของ คือการที่ได้วาดภาพ พระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่9 และพระองค์ทรงตอบมาเป็นจดหมายว่า “ทรงขอบใจ” นทีป์ ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และ ได้วาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ และได้รับโอกาสเข้าไปเฝ้าทูลละอองพระบาทถวายพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจให้กับเขาอย่างหาที่สุดไม่ได้ พระองค์ท่านยังได้ทรงมีรับสั่งให้กำลังใจและให้กลับมาสู้ และขอให้ทำเช่นนี้ต่อไป ซึ่งเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ที่ผลักดันให้ก้าวเดินต่อไปในฐานะ "ฅนปากศิลป์"
นทีป์ ฅนปากศิลป์ ได้ให้แง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตว่า "เรากลับไปแก้อะไรในอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุขได้" และเน้นย้ำว่าเราไม่ควรจมอยู่กับความเสียใจในอดีต แต่ให้ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด และทำทุกวันให้มีความสุข ไม่ต้องกังวลถึงวันพรุ่งนี้มากเกินไป
นทีป์ ฅนปากศิลป์ คือ บุคคลผู้เป็นแรงบันดาลใจ ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ย่อท้อ ความเพียรพยายาม และการค้นหาพลังในตัวเอง แม้ชีวิตจะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนอุปสรรค ให้เป็นโอกาสในการสร้างชีวิตใหม่ที่มีคุณค่า และพร้อมเป็นบุคคลต้นแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในสังคมต่อไป
23 มิ.ย. 2568
18 ก.ค. 2568